ผลิตภัณฑ์ผ้ามาตรฐานจะกลายเป็นของดั้งเดิมและน่าดึงดูดใจหากคุณใช้ลวดลายที่เหมาะสมกับมัน มีสองวิธีหลักในการใช้งาน: โดยการพิมพ์ความร้อนหรือด้วยมือ
มันจำเป็น
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท, กระดาษทิชชู่พิเศษ, แผ่นหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่เพื่อปกป้องพื้นผิวการทำงาน, สีผ้า, จานสี, ฟองน้ำทาสีหรือแปรง, กระดาษแข็งที่ทนทาน, ลายฉลุ, ห่วง
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ก่อนใช้ลวดลายต้องล้างผ้า (เสื้อผ้า) และรีดด้วยเตารีดเพื่อให้สีซึมซับได้ดีและสติกเกอร์ติดได้ดี
ขั้นตอนที่ 2
หากต้องการใช้ภาพวาดโดยใช้การพิมพ์ความร้อน ให้ค้นหาภาพที่เหมาะสมหรือสร้างภาพด้วยตนเองโดยใช้โปรแกรมแก้ไขกราฟิก Adobe Photoshop หรือ Corel Draw ใช้คุณสมบัติการแสดงตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจว่าการออกแบบจะมีลักษณะอย่างไรบนผ้า พิมพ์ภาพบนเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทบนฟิล์มพิเศษสำหรับผ้า - TTS สำหรับสีขาวหรือ OBM สำหรับสีเข้มและสี
ขั้นตอนที่ 3
ตัดส่วนเกินรอบลวดลายออกอย่างระมัดระวังด้วยกรรไกร เอาฟิล์มความร้อนส่วนเกินออกด้วยเข็ม ใช้การออกแบบที่มีฟิล์มความร้อนกับผ้าคลุมด้วยผ้ากอซหรือผ้าบาง ๆ และรีดด้วยเตารีดเป็นเวลาประมาณ 15 วินาที นำฟิล์มออก
ขั้นตอนที่ 4
ในการทาสีบนผ้า ให้วางหนังสือพิมพ์บนพื้นผิวการทำงานของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงการเปื้อน คลี่ผ้าออก ถ้าเป็นเสื้อผ้า ให้ใส่กระดาษแข็งหนาๆ ข้างในเพื่อป้องกันไม่ให้สีซึมและเปื้อนอีกด้าน ยึดผลิตภัณฑ์กับพื้นผิวการทำงานด้วยเทป
ขั้นตอนที่ 5
วางลายฉลุบนผ้า ยึดด้วยหมุดหรือเทปนิรภัย ศึกษาคำแนะนำที่มาพร้อมกับสีอย่างระมัดระวัง ใช้จานสีถ้าจำเป็น วาดสีบนฟองน้ำหรือแปรง และวาดโครงร่างของลายฉลุอย่างระมัดระวัง หากคุณมีสีสเปรย์ในกระป๋อง ควรใช้หนังสือพิมพ์ปกป้องผ้ารอบๆ ลายฉลุ หลังจากใช้ลวดลายแล้ว ให้แกะลายฉลุออกอย่างระมัดระวัง อย่านำกระดาษแข็งออกจนกว่าสีจะแห้งสนิท คุณอาจใช้สีที่ชุบด้วยเหล็กร้อน - ในกรณีนี้ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 6
มีวิธีลงแพทเทิร์นกับผ้าโดยใช้ห่วง ถ่ายโอนการออกแบบไปยังผ้าโดยใช้กระดาษถ่ายโอนสีขาวหรือปากกาสักหลาด คล้องผ้าแล้วทาสีด้วยสีขาวรอบๆ แบบเพื่อสร้างฐานที่มั่นคง เมื่อรองพื้นแห้ง ให้ระบายสีในรูปวาด - เฉดสีเข้มก่อน จากนั้นจึงค่อยเป็นสีอ่อน หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน หลังจากที่แห้งสนิทแล้ว ให้รีดผ้าจากด้านที่ผิดด้วยเตารีดเพื่อรักษาลวดลาย